เว็บสยามคริสเตียน > รู้จักพระเยซู - ในวัยเด็ก
เรียบเรียงโดย พายุแห่งความเปรมปรีดิ์
พระเยซูทรงเกิดเมื่อประมาณ 2,000 ปี ที่ผ่านมาที่ประเทศอิสราเอล พระเยซูทรงมีชีวิตที่ไม่เหมือนใครในโลกนี้ เพราะพระองค์ทรงเป็นมนุษย์ 100% และเป็นพระเจ้า 100% พระเจ้าทรงส่งพระเยซูมาบังเกิดในโลกนี้โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อทนทุกข์ทรมาน และตายบนกางเขนเพื่อไถ่บาปมนุษย์ทั้งหลาย เพื่อคนที่เชื่อในพระองค์จะได้ไม่ตกนรก และหลังจากที่พระเยซูทรงฟื้นขึ้นจากตาย พระองค์ก็เสด็จสู่สวรรค์เพื่อเตรียมบ้านที่ถาวรไว้สำหรับผู้ที่เชื่อในพระองค์ โดยชีวประวัติของพระเยซูตลอดชีวิตที่อยู่บนโลกนี้มีดังนี้
การพยากรณ์เรื่องการประสูติของพระเยซู
(ลูกา 1:26 - 38; มัทธิว 1:18 - 25)
ในพระธรรมมัทธิวและพระธรรมลูกาได้บอกถึงเรื่องราวการประสูติของพระเยซูว่า ทูตสวรรค์ที่ชื่อกาเบรียลได้มาหามารีย์หญิงพรหมจารี ซึ่งได้หมั้นหมายกับโยเซฟเอาไว้แต่ยังไม่แต่งงานกัน ว่ามารีย์จะตั้งครรภ์โดยเดชพระวิญญาณบริสุทธิ์ และจะคลอดบุตรเป็นผู้ชาย ให้ตั้งชื่อเด็กคนนั้นว่า “เยซู” เด็กคนนี้จะได้ชื่อว่าเป็นบุตรของพระเจ้าสูงสุด จะได้เป็นกษัตริย์เหมือนกับดาวิดบรรพบุรุษของเขา และจะครอบครองบัลลังก์เป็นกษัตริย์สืบไปเป็นนิตย์ (แท้จริงการครอบครองของพระเยซูไม่ใช่บัลลังก์ของโลกนี้ แต่เป็นการครอบครองบัลลังก์ในอาณาจักรฝ่ายวิญญาณ ซึ่งไม่มีวันเสื่อมสลาย ต่างกับกษัตริย์ต่าง ๆ ของโลกนี้ที่ปกครองเพียงชั่วคราว)
การพยากรณ์เรื่องการประสูติของพระเยซู
ก่อนที่พระเยซูจะเกิดไม่นาน กษัตริย์ออกัสตัสได้ประกาศให้มีการจดทะเบียนสำมะโนครัวตลอดทั่วทั้งอาณาจักรโรมัน ซึ่งอิสราเอลในเวลานั้นก็เป็นเมืองขึ้นของอาณาจักรโรมันด้วย ทำให้ทุกคนต้องกลับบ้านเกิดของตนเพื่อไปจดทะเบียนสำมะโนครัว โยเซฟอาศัยอยู่ที่เมืองนาซาเร็ธแคว้นกาลิลีซึ่งอยู่ทางเหนือ ต้องเดินทางกลับบ้านเกิดที่เมืองเบธเลเฮ็มแคว้นยูเดียที่อยู่ทางใต้ เพราะโยเซฟเป็นเชื้อสายของกษัตริย์ดาวิดซึ่งพระองค์เกิดที่เบธเลเฮม (1 ซามูเอล 17:12) เมื่อประมาณ 1,000 ปี ก่อนที่พระเยซูจะเกิด
เมื่อไปถึงเมืองเบธเลเฮม มารีย์ก็ปวดครรภ์จะคลอดบุตร แต่ไม่มีโรงแรมว่างสำหรับพวกเขา เพราะทุก ๆ คนต่างก็เดินทางมาจดทะเบียนสำมะโนครัวกัน สมัยนั้นการเดินทางส่วนใหญ่จะใช้สัตว์เป็นพาหนะ โรงแรมจึงจำเป็นต้องมีคอกสัตว์ไว้สำหรับให้แขกที่มาพัก เมื่อไม่มีห้องพัก มารีย์และโยเซฟจึงขออาศัยในคอกสัตว์และได้คลอดลูกที่นั่น โดยเอาผ้าอ้อมพันพระกุมารเยซูไว้ วางในรางหญ้า
เมืองเบธเลเฮมเป็นเมืองสำคัญสำหรับพระเมสสิยาห์ เพราะผู้เผยพระวจนะมีคาห์ซึ่งเกิดก่อนพระเยซูประสูติประมาณ 700 ปี ได้พยากรณ์ว่าเมืองเบธเลเฮมจะเป็นที่ประสูติของพระเมสสิยาห์ (คำว่าเมสสิยาห์มาจากภาษาฮิบรูแปลว่าผู้ที่ได้รับการเจิม หรือผู้ที่ถูกเลือก สมัยก่อนการจะแต่งตั้งผู้เผยพระวจนะ ปุโรหิต หรือกษัตริย์ จะต้องมีการเจิมด้วยน้ำมัน การเจิมเป็นสัญลักษณ์ว่าพระเจ้าทรงเลือกคน ๆ นั้นให้ทำงานของพระองค์)
มีคาห์ 5: 2 แต่เจ้า เบธเลเฮม เอฟราธาห์ ผู้เป็นหน่วยเล็กในบรรดาตระกูลของยูดาห์ จากเจ้า จะมีผู้หนึ่งออกมาเพื่อเรา
พวกนักปราชญ์เข้าเฝ้าพระกุมาร
ในช่วงเวลาที่พระเยซูประสูติ ได้มีดาวประหลาดปรากฏขึ้น ซึ่งนักวิชาการคาดว่าอาจจะเป็นดาวตก หรือไม่ก็เป็นปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติบางอย่าง หรืออาจจะเป็นดาวประหลาดตามตัวอักษรที่บันทึกในพระคัมภีร์ ซึ่งเราไม่มีทางรู้ว่าดาวประหลาดที่ปรากฏขึ้นเมื่อประมาณ 2,000 ปีก่อนหน้าตาเป็นอย่างไร จากการสังเกตดวงดาว นักปราชญ์จากทิศตะวันออกจึงรู้ว่ามีกษัตริย์องค์หนี่งของอิสราเอลได้มาบังเกิด จึงได้ตามดาวประหลาดนั้นเพื่อที่จะได้พบกับพระกุมาร และได้มาหากษัตริย์เฮโรดซึ่งปกครองอิสราเอลในสมัยนั้นถามว่าพระกุมารอยู่ที่ไหน พวกตนจะได้นมัสการพระองค์
กษัตริย์เฮโรดพยายามฆ่ากษัตริย์ที่จะเกิดมา (พระเยซู)
กษัตริย์เฮโรดได้รับการแต่งตั้งจากอาณาจักรโรมันให้ดูแลคนยิวและปกครองเหนือดินแดนอิสราเอล เมื่อเฮโรดได้ยินว่าพระคริสต์ (หรือพระเมสสิยาห์) จะมาบังเกิด กษัตริย์เฮโรดรู้ว่านี่คือกษัตริย์ที่จะเกิดขึ้นมาตามที่พระเจ้าสัญญาว่าจะประทานกษัตริย์เพื่อปลดปล่อยคนยิวจากการเป็นทาส (แท้จริงพระเจ้าหมายถึงทาสของความบาป ไม่ใช่ทาสจากการปกครองของผู้มีอำนาจในโลกนี้) ด้วยความที่กลัวว่าจะมีคนแย่งอำนาจ จึงได้ถามหัวหน้าปุโรหิตและพวกธรรมจารย์ซึ่งมีความรู้ด้านพระคัมภีร์ดี ว่าได้มีการบอกไว้ในพระคัมภีร์เกี่ยวกับพระเมสสิยาห์ว่าอย่างไร ก็ได้ความว่าพระคริสต์นั้นจะต้องเกิดที่หมู่บ้านเบธเลเฮม กษัตริย์เฮโรดจึงคิดร้ายต่อพระกุมารแต่ก็ได้ออกอุบายโดยบอกพวกนักปราชญ์ว่า ถ้าเจอพระกุมารที่บังเกิดมาเพื่อเป็นกษัตริย์เมื่อไรก็ให้รีบมาบอกตน เพื่อที่ตนจะได้ไปนมัสการด้วย แต่เมื่อพวกนักปราชญ์พบพระกุมารแล้ว ก็ได้รับคำเตือนในความฝันว่าไม่ให้ไปบอกกษัตริย์เฮโรด ดังนั้นพวกเขาจึงเดินทางกลับไปบ้านของตนทางอื่น
ครอบครัวของพระเยซูอพยพไปอียิปต์
หลังจากที่พวกนักปราชญ์กลับไปแล้วก็มีทูตสวรรค์มาเตือนโยเซฟในความฝันว่าให้พาพระกุมารและนางมารีย์หนีไปอียิปต์ และให้อยู่ที่นั่นจนกว่าพระเจ้าจะบอกให้กลับอิสราเอล เพราะกษัตริย์เฮโรดกำลังหาตัวพระกุมารเยซูเพื่อที่จะฆ่าเสีย
ในสมัยโบราณเราจะเห็นว่าคนอิสราเอลก็มักจะไปอยู่ที่อียิปต์เมื่อเกิดปัญหาขึ้น เช่นยาโคบกับลูก ๆ เมื่อเกิดการกันดารอาหารก็ได้ย้ายไปอยู่ที่อียิปต์ ซึ่งเมื่อกษัตริย์เฮโรดรู้ว่าถูกพวกนักปราชญ์หลอกก็รู้สึกกริ้วมาก จึงได้สั่งให้มีการสังหารเด็กผู้ชายทั้งหมดในหมู่บ้านเบธเลเฮมและบริเวณใกล้เคียงที่มีอายุตั้งแต่สองขวบลงมา
พระเยซูกลับมาที่อิสราเอล และไปอยู่ที่เมืองนาซาเร็ธ
เมื่อกษัตริย์เฮโรดสิ้นพระชนม์ ทูคสวรรค์ก็ได้มาบอกโยเซฟในความฝันว่าถึงเวลาแล้วที่จะพาพระเยซูกลับประเทศอิสราเอล แต่โยเซฟก็ไม่กล้ากลับไปอยู่ที่เมืองเบธเลเฮมเมื่อรู้ว่าลูกชายของกษัตริย์เฮโรด คืออารเคลาอัส ได้เป็นกษัตริย์ต่อจากบิดาของเขา ก็มีความกลัว เพราะเมืองเบธเลเฮมอยู่ไม่ไกลจากกรุงเยรูซาเล็ม (ลูกของกษัตริย์เฮโรด 3 คน ได้แบ่งกันปกครองดินแดนปาเลสไตน์ซึ่งขึ้นอยู่กับอาณาจักรโรมันอีกที โดยปกครองเมืองต่าง ๆ ดังนี้ อารเคลาอัส ปกครองยูเดียและสะมาเรีย เฮโรด แอตติพาส ปกครองกาลิลีและพีเรีย เฮโรดฟีลิป ปกครองอิตูเรียและทราโคนิทิส) และเมื่อได้รับคำเตือนจากทูตสวรรค์จึงได้ขึ้นไปทางเหนือ ไปอยู่ที่แคว้นกาลิลี ไปอาศัยอยู่ในเมือง ๆ หนึ่งชื่อนาซาเร็ธ ที่นี่พระเยซูได้เติบโตขึ้นจนได้ชื่อว่า พระเยซูชาวนาซาเร็ธ
พระกุมารเยซูในพระวิหาร
พอพระเยซูอายุได้ 12 ปี ก็ได้ตามมารีย์และโยเซฟไปร่วมงานเทศกาลปัสกาที่กรุงเยรูซาเล็ม ซึ่งได้ทำกันเป็นประจำทุกปี พอเทศกาลจบลงมารีย์และโยเซฟก็ได้เดินทางกลับบ้านโดยคิดว่าพระเยซูคงอยู่ในกลุ่มญาติ ๆ ที่ร่วมเดินทางมาด้วยกัน หลังจากการเดินทางหนึ่งวัน มารีย์และโยเซฟก็ได้ตามหาพระเยซู แต่ไม่พบ จึงได้กลับมาหาพระเยซูที่กรุงเยรูซาเล็มอีกครั้ง และหลังจากหาพระเยซูถึงสามวัน ก็ได้พบพระเยซูอยู่ในพระวิหารกำลังพูดคุยกับอาจารย์ต่าง ๆ ในพระวิหารนั้น เมื่อมารีย์พบพระเยซูในพระวิหาร พระเยซูได้บอกกับมารีย์ว่า “พ่อกับแม่ตามหาลูกทำไม? พ่อกับแม่ไม่รู้หรือว่าลูกต้องอยู่ในพระนิเวศของพระบิดา?” นี่เป็นครั้งแรกที่พระคัมภีร์ได้บันทึกว่าพระเยซูได้เปิดเผยพระองค์ว่าแท้จริงแล้วพระองค์คือใคร แต่ในเวลานั้นยังไม่มีใครรับรู้ได้
เว็บสยามคริสเตียน (Siam Christian) เป็นเว็บส่วนบุคคลที่ไม่ขึ้นกับองค์กรหรือหน่วยงานใด ๆ ซึ่งมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อให้ความรู้ ความเข้าใจแก่ผู้ที่สนใจเรื่องเกี่ยวกับพระเจ้า พระเยซู คริสเตียน หรือคริสตจักรต่าง ๆ ในประเทศไทย หากท่านมีคำถามหรือมีข้อเสนอแนะอะไรก็สามารถอีเมลมาพูดคุยกับเราได้ที่ christiansiam@gmail.com