เว็บสยามคริสเตียน > บทความคริสเตียน > บทความเกี่ยวกับชีวิตคริสเตียน > ท่ามกลางความมืดมิด
เรียบเรียงโดย พายุแห่งความเปรมปรีดิ์
หลายครั้งชีวิตของเราก็ไม่ได้ราบรื่นเสมอไป บางช่วงเวลา ชีวิตเหมือนอยู่ท่ามกลางความมืด ท่ามกลางปัญหา ซึ่งเราก็มืดแปดด้าน ไม่รู้ว่าจะหาทางออกจากวิกฤติของชีวิตนี้ได้ยังไง หลายครั้งเราอาจจะสงสัย เราอาจจะมีคำถามว่าพระเจ้ามีอยู่จริงหรือ? ยังคงฟังคำอธิษฐานของเราอยู่หรือ? และหลาย ๆ ครั้ง เราก็ไม่รู้ว่าจะเผชิญกับวันพรุ่งนี้ได้อย่างไร ในเมื่อไม่มีแสงสว่างอะไรส่องให้เห็นทางได้เลย
ใน 1 ซามูเอล 17 ดาวิดซึ่งเป็นเพียงเด็กหนุ่มธรรมดาคนหนึ่ง เป็นเพียงคนเลี้ยงแกะธรรมดา ๆ เท่านั้น แต่ดาวิดได้เสนอตัวเองเพื่อต่อสู้กับโกลิอัทซึ่งเป็นยอดทหารของพวกฟีลิสเตีย โกลิอัทสูงถึง 3 เมตร และชำนาญการรบเป็นอย่างดี แต่โดยพระเจ้า ดาวิดก็สามารถฆ่าโกลิอัทได้ ซึ่งอาวุธของดาวิดมีเพียงก้อนหิน 5 ก้อน และสลิงเท่านั้น นึ่คงเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดของดาวิด เป็นช่วงที่มีคนยกย่อง เป็นช่วงขาขึ้นของชีวิต เปรียบเหมือนยามเช้าที่สดใส
แต่ใครจะคิดว่าดาวิดผู้ที่ช่วยกู้อิสราเอล คนที่นับได้ว่าเป็นฮีโร่ที่มาช่วยเหลือในยามวิกฤติ จะต้องหนีตายจากซาอูลที่คอยตามฆ่าในเวลาต่อมา และชีวิตดาวิดตกต่ำที่สุดถึงขนาดต้องแกล้งทำตัวเป็นคนบ้าเพื่อหนีตาย (1 ซามูเอล 21:10-15) ดาวิดต้องหนีไปอยู่ในถ้ำ ไปอยู่ในทะเลทราย ไปอยู่ในถิ่นทุรกันดาร นี่คงเป็นช่วงเวลาที่มืดมิดที่สุดของดาวิด ยามเช้าที่สดใสได้จางไป และเวลากลางคืนก็ได้คืบคลานเข้ามาแทน
แท้จริงแล้ว ช่วงเวลาแห่งความมืดมิดเป็นช่วงเวลาแห่งการทดสอบ เป็นช่วงเวลาที่พระเจ้ากำลังจะปั้น แต่ง เติม ชีวิตของเรา แล้วเราจะตอบสนองยังไง เราจะยังคงมองแต่ปัญหารอบข้าง คิดในแง่ลบ พร่ำบ่นถึงความไม่ยุติธรรม คิดน้อยใจในโชคชะตา หรือเราจะเลือกที่จะบอกพระเจ้าว่า แม้ว่าจะไม่เข้าใจแต่เราก็ยังคงวางใจในพระเจ้า เรายังคงเชื่อมั่นในพระองค์เสมอ
แม้ว่าดาวิดจะรู้ว่าพระเจ้าได้เจิมตั้งเขาให้เป็นกษัตริย์ของอิสราเอล แม้ว่าดาวิดจะมีโอกาสที่จะฆ่าซาอูลหลายต่อหลายครั้ง แต่เขาก็ไม่ทำ เพราะนั่นคือคนที่พระเจ้าทรงเจิม แม้ว่าดาวิดจะทุกข์ยากลำบากเท่าไรก็ตาม ดาวิดเลือกที่จะเชื่อฟังพระเจ้า ดาวิดเลือกให้พระเจ้าเป็นที่หนึ่งของชีวิต การฆ่าซาอูลให้ตายดูเหมือนจะเป็นทางออกที่ดี เพราะเมื่อซาอูลตาย ดาวิดก็ไม่ต้องหนีอีกต่อไป แถมดาวิดยังได้เป็นกษัตริย์ของอิสราเอลอีกด้วย เพราะทุกคนก็รู้ว่าพระเจ้าได้เจิมตั้งดาวิดเอาไว้
หลาย ๆ ครั้ง เรามักจะพบทางออกที่ดีของชีวิต เป็นทางออกที่ถูกใจเรา เป็นทางออกที่ใคร ๆ ก็คงทำกัน เป็นทางแก้ปัญหาทุกอย่างทั้งหมดแถมยังได้ประโยชน์มากมายตามมาอีกด้วย จะติดอยู่เพียงแค่วิธีนั้นไม่ใช่วิธีที่พระเจ้าต้องการ แล้วเราจะตัดสินใจยังไง? เราจะเลือกทำตามใจตนเอง หรือจะเลือกเชื่อฟังพระเจ้าต่อไปทั้ง ๆ ที่มองไม่เห็นทางออกของชีวิต
ในสดุดี 30:5 บอกว่า “การร้องไห้อาจจะคงอยู่สักคืนหนึ่ง แต่ความยินดีจะมาเวลาเช้า” ความมืดมิดที่ผ่านเข้ามาในชีวิตของเรานั้นเป็นเพียงชั่วคราว เพราะเมื่อถึงเวลาเช้า ความชื่นบานก็จะกลับมาอีกครั้ง
โยบเป็นคนชอบธรรม รักพระเจ้า มีชีวิตที่ดี มีฐานะร่ำรวย มีครอบครัวที่อบอุ่น คงไม่มีใครสุขใจเท่ากับโยบในเวลานั้น แต่เพียงแค่ชั่วข้ามคืน ทุกอย่างก็เปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือ ทรัพย์สินเงินทองทั้งหมดที่เขามีก็หายไปจนสิ้น ลูก ๆ และภรรยาก็จากไป อีกทั้งร่างกายของโยบเจ็บป่วย ทั้ง ๆ ที่โยบเป็นคนดี โยบเป็นคนชอบธรรม โยบเป็นคนที่รักพระเจ้า
ในมัทธิว 5:45 บอกว่า “เพราะว่าพระองค์ทรงให้ดวงอาทิตย์ของพระองค์ขึ้นส่องสว่างแก่คนดีและคนชั่วเสมอกัน และให้ฝนตกแก่คนชอบธรรมและคนอธรรม” สิ่งดีและไม่ดีต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นนั้น สามารถเกิดได้ทั้งคนดีและคนชั่วเหมือนกัน สิ่งที่เราพบที่เราเจอไม่ใช่เพราะว่าเราทำผิด ไม่ใช่เพราะว่าเราทำบาป แต่พระเจ้าทรงมีแผนการที่ดีต่อชีวิตของเรา พระเจ้าทรงควบคุมทุกอย่างไว้แล้ว เหมือนกับโยบ แม้ว่าซาตานจะขอทดสอบโยบ พระเจ้าทรงอนุญาตแต่ทรงห้ามไม่ให้แตะต้องชีวิตของโยบ พระเจ้าทรงสัญญาว่าไม่มีการทดลองใด ๆ ที่เกิดขึ้นจะเกินกว่าที่เราจะทนได้ พระเจ้ามีคำตอบสำหรับทุกปัญหา (1 โครินธ์ 10:13)
พระเจ้าไม่ใช่แค่ให้โยบผ่านปัญหาและความมืดมิดเท่านั้น แต่ทรงอวยพรเขาถึง 2 เท่า และหลังจากเหตุการณ์นี้ โยบมีชีวิตอยู่อีก 140 ปี ได้เห็นลูกหลานถึง 4 ชั่วคน และโยบก็ตายเมื่อแก่หง่อมมาก (โยบ 42:16-17) ความมืดมิดที่ผ่านมาเป็นเพียงชั่วคราวเท่านั้น เหมือนโยบ หลังจากความมืดมิด โยบได้ชื่นชมสิ่งที่ดีอีกถึง 140 ปี เช่นกัน ให้เรามีความเชื่อว่าปัญหาที่เราพบเป็นแค่ชั่วคราว พระเจ้ามีพระพรรออยู่ และเป็นพระพรที่เราจะได้ชื่นชมแบบยาวนาน
แต่หลายครั้งปัญหาที่ผ่านเข้ามาในชีวิตเราก็เป็นผลมาจากการกระทำของเราด้วย โมเสสมีความตั้งใจดี ต้องการที่จะช่วยเหลือคนที่เป็นชนชาติเดียวกับตน แต่เขาทำตามวิธีของเขาเอง เขาได้ฆ่าคนอียิปต์ ผลก็คือเขาต้องหนีออกไปจากอียิปต์ถึง 40 ปี ลองคิดดูว่าโมเสสเคยมีชีวิตที่สุขสบายแค่ไหน เคยเป็นเจ้าเป็นนายอยู่ที่อียิปต์ แต่เพียงเพราะการกระทำของตนเอง โมเสสต้องหนีไปอยู่ในถิ่นทุรกันดาร หนีจากฟาโรห์ถึง 40 ปี มันเป็นช่วงเวลาที่มืดมิดที่สุดในชีวิตของเขา แต่พระเจ้าทรงใช้เวลา 40 ปีนั้น เพื่อที่จะเปลี่ยนโมเสสให้เป็นคนที่พระองค์ทรงใช้การได้ โมเสสเป็นคนที่พระเจ้าทรงบอกว่าเขาเป็นคนที่ถ่อมใจยิ่งกว่าคนทั้งหมดของแผ่นดินนี้และเป็นคนซื่อสัตย์ (กันดารวิถี 12:3, 7) ถ้าไม่มีประสบการณ์ที่เลวร้ายตลอด 40 ปี ถ้าหากเขายังคงใช้ชีวิตเป็นเจ้าชายอยู่ที่อียิปต์ ชีวิตเขาก็คงไม่ได้รับการปรับแต่ง และเขาก็คงไม่มีโอกาสที่จะได้พูดกับพระเจ้าแบบหน้าต่อหน้า (กันดารวิถี 12:8) เขาคงจะไม่มีโอกาสได้รับใช้พระเจ้า ได้เห็นการอัศจรรย์มากมายที่พระเจ้าทรงทำผ่านทางชีวิตของเขา ดังนั้น ในท่ามกลางความมืดมิด ให้อธิษฐานขอให้พระเจ้าปั้นแต่งเรา ให้เราเติบโตขึ้นท่ามกลางความทุกข์ยากลำบาก ให้เราเป็นคนที่ใช้การได้ของพระองค์ และเมื่อความมืดได้ผ่านไป เราก็จะเป็นคนที่พระเจ้าทรงใช้การได้ เหมือนกับโมเสสที่ได้พาชนชาติอิสราเอลออกจากอียิปต์ตามพระสัญญาที่พระเจ้าได้ให้ไว้กับบรรพบุรุษของเขา
อยากให้เราลองดูหนอนผีเสื้อ มันได้แค่คลานไปคลานมา มันอาจจะคิดว่าชีวิตก็คงได้แต่คลานช้า ๆ แบบนี้ คงได้แต่อยู่ตามดิน ตามใบไม้ คงไปไหนได้ไม่ไกล แต่ต่อมาก็เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันขึ้น มีใยอะไรก็ไม่รู้มาพันล้อมรอบตัวมัน มันต้องอยู่ในที่มืด ๆ แคบ ๆ ขยับไม่ได้ มันคงบอกว่าไม่ชอบที่นี่ มืด เหงา อยากไปเป็นหนอนเหมือนเดิม แต่หารู้ไม่ ความมืดกำลังเปลี่ยนแปลงตัวมันอยู่ สุดท้ายมันก็กลายเป็นผีเสื้อที่สวยงาม
เช่นเดียวกัน พระเจ้ากำลังใช้ความมืดมิด ความทุกข์ยากลำบากเพื่อที่จะทดสอบเรา เพื่อที่จะพิสูจน์เรา และมากยิ่งกว่านั้น ก็เพื่อที่จะเปลี่ยนเรา ยกระดับเรา เรากำลังเปลี่ยนแปลง ปีกของเรากำลังมา ไม่ต้องคลานอีกต่อไป เรากำลังจะบิน เรากำลังจะก้าวไปสู่อีกขั้นหนึ่งของชีวิต นี่ไม่ใช่เวลาแห่งความท้อแท้ แต่เป็นเวลาแห่งความชื่นชมยินดีที่พระเจ้าจะนำเราไปสู่อนาคตที่เราไม่อาจจะคาดหรือคิดได้
“เรารู้ว่าเหตุการณ์ทุกอย่างร่วมกันก่อผลดีแก่คนที่รักพระเจ้า คือแก่คนทั้งหลายที่พระองค์ทรงเรียกตามพระประสงค์ของพระองค์” โรม 8:28
ถ้าหากสนใจอยากรู้เรื่องราวของการเป็นคริสเตียน สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่หัวข้อ เริ่มต้นการเป็นคริสเตียน หรือถ้าหากมีคำถามก็สามารถเมลมาสอบถามได้ที่ christiansiam@gmail.com
เว็บสยามคริสเตียน (Siam Christian) เป็นเว็บส่วนบุคคลที่ไม่ขึ้นกับองค์กรหรือหน่วยงานใด ๆ ซึ่งมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อให้ความรู้ ความเข้าใจแก่ผู้ที่สนใจเรื่องเกี่ยวกับพระเจ้า พระเยซู คริสเตียน หรือคริสตจักรต่าง ๆ ในประเทศไทย หากท่านมีคำถามหรือมีข้อเสนอแนะอะไรก็สามารถอีเมลมาพูดคุยกับเราได้ที่ christiansiam@gmail.com