Email: christiansiam@gmail.com
โดย ดร. จิโรจ บงกชมาศ
สวัสดีปีใหม่ครับ ขอบคุณพระเจ้าที่เราได้มานมัสการพระองค์ร่วมกันในเช้านี้ เช้านี้ผมอยากแบ่งปันเรื่องหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับแนวคิดที่เรียกว่า “Self-Reflection” หรือในภาษาไทยคือ "การสะท้อนกลับ" ซึ่งเป็นกระบวนการที่เรามองย้อนกลับไปในอดีตเพื่อเรียนรู้ เข้าใจ และเติบโตในความเชื่อและในชีวิตของเรา
หลายคนคงเคยได้ยินเรื่องราวของโยนาห์ในพระคัมภีร์เดิม เมื่อพระเจ้าเรียกให้เขาไปประกาศความรักที่เมืองนีนะเวห์ แต่โยนากลับหนีไปยังทารชิช ซึ่งอยู่ไกลออกไปถึง 4,000 กิโลเมตร ท่ามกลางการหลบหนีนี้ พระเจ้าให้เกิดพายุใหญ่บนเรือ และโยนาห์ก็ถูกโยนลงทะเล แต่พระเจ้าทรงส่งปลามากลืนเขาไว้ และโยนาห์อยู่ในท้องปลาถึงสามวัน
ในช่วงวันแรก ๆ โยนาห์คงคิดว่าพระเจ้าทรงลงโทษเขา แต่เมื่อเขาเริ่มไตร่ตรอง เขาเริ่มเข้าใจว่าพระเจ้าทรงใช้ปลาเพื่อช่วยชีวิตเขา ไม่ใช่เพื่อทำลายเขา เหตุการณ์ที่ดูเหมือนทุกข์ทรมานที่สุด กลับกลายเป็นการช่วยให้เขากลับสู่แผนการของพระเจ้า
เช่นเดียวกันกับเหตุการณ์ในชีวิตของเราตลอดปีที่ผ่านมา ปี 2024 อาจมีหลายเหตุการณ์ที่ดูเหมือนปัญหา ความเจ็บปวด หรือการถูกทำร้าย แต่เมื่อเราย้อนกลับไปมองอีกครั้งด้วยใจที่เปิดรับ เราอาจพบว่าพระเจ้าทรงซ่อนพระคุณไว้ในช่วงเวลาเหล่านั้น เพื่อให้เราเติบโต เข้าใจ และรู้จักพระองค์มากขึ้น
อีกหนึ่งตัวอย่างที่ชัดเจนคือเรื่องของโยเซฟ เมื่อเขาถูกพี่ชายขายไปเป็นทาสที่อียิปต์ หลายปีผ่านไป เมื่อเขากลายเป็นผู้มีอำนาจสูงสุดในอียิปต์ พี่ชายเหล่านั้นก็กลับมากราบขออภัย โยเซฟไม่ได้ตอบแทนด้วยความโกรธ แต่กลับพูดว่า:
"พวกท่านคิดร้ายต่อเรา แต่ฝ่ายพระเจ้าทรงดำริให้เกิดผลดี เพื่อช่วยชีวิตคนเป็นอันมาก" (ปฐมกาล 50:20)
นี่คือความเข้าใจที่เกิดจากการสะท้อนกลับ โยเซฟไม่ได้ลืมอดีต แต่เขาเลือกที่จะตีความอดีตด้วยสายตาแห่งพระคุณ การใช้ Self-Reflection อย่างต่อเนื่อง ทำให้โยเซฟเติบโตเป็นผู้นำที่เต็มไปด้วยความเมตตาและความเข้าใจ
การสะท้อนกลับไม่ใช่เพียงการคิดถึงอดีต แต่มันคือการมองอดีตผ่านแว่นแห่งพระคุณ เพื่อเรียนรู้ เข้าใจ และเปลี่ยนแปลงตัวเองในปัจจุบันและอนาคต
เมื่อเรามองกระจก เราเห็นตัวเอง ในทำนองเดียวกัน เมื่อเรามองอดีตด้วยความตั้งใจ เราจะเห็นตัวเองในอีกมุมหนึ่ง เราอาจเห็นความอ่อนแอ ความผิดพลาด หรือความเจ็บปวด แต่หากเรามองด้วยความเข้าใจว่า พระเจ้าอยู่ที่นั่นเสมอ แม้เราจะไม่เห็นในตอนนั้น เราจะเริ่มเข้าใจแผนการที่พระเจ้าทรงมีสำหรับเรา
ในบางหลักสูตรการเยียวยาภายใน (Inner Healing) มีการนำแนวคิดนี้มาใช้ โดยให้ผู้เข้าร่วมกลับไปมองเหตุการณ์ในอดีต และถามตัวเองว่า “พระเจ้าอยู่ตรงไหนในช่วงเวลานั้น” เพื่อให้เกิดการเยียวยาและเข้าใจใหม่ว่าพระเจ้าไม่เคยทอดทิ้งเราเลย
การสะท้อนกลับยังช่วยให้เราใช้พระคัมภีร์ในชีวิตจริง เช่น การกลับใจใหม่ต้องเริ่มจากการมองย้อนว่าเราทำผิดอะไร การขอบคุณพระเจ้าต้องมองว่าเราได้รับอะไรจากพระองค์ในอดีต การถวายตัวต้องมองว่าแผนการของพระเจ้าดำเนินกับเราอย่างไร
การสะท้อนกลับควรนำไปสู่ 3 สิ่ง:
1. การกลับใจใหม่ – ยอมรับความผิดพลาด และขอการให้อภัยจากพระเจ้า
2. การวางใจในพระเจ้า – เชื่อว่าพระเจ้าทรงมีแผนที่ดี แม้เราอาจไม่เข้าใจในเวลานั้น
3. การขอบพระคุณ – สำหรับทุกสิ่งที่ผ่านมา เพราะมันช่วยหล่อหลอมเราให้เข้มแข็งขึ้น
สุดท้าย อย่าลืมว่า ชีวิตเราคือเรื่องราวที่กำลังดำเนินอยู่ เราอาจชอบดูหนัง ดูละคร ดูซีรีส์ต่าง ๆ แต่อย่าลืมดู “หนังชีวิต” ที่เรากำลังแสดงอยู่ด้วย ในหลายฉากเราอาจรู้สึกว่าเราเป็นเหยื่อ แต่เมื่อย้อนกลับไปมองอีกครั้ง เราอาจพบว่าเราเองก็มีส่วนในการทำร้ายคนอื่นเช่นกัน
ปีใหม่นี้ ขอเชิญชวนให้เรากลับไปดูอดีตด้วยใจที่อยากเรียนรู้ อยากรู้จักตัวเองมากขึ้น และรู้จักพระเจ้ามากขึ้น เพื่อให้ชีวิตเราก้าวเข้าสู่ปี 2025 อย่างมีเป้าหมาย มีสติ และเต็มไปด้วยพระคุณ
หากคุณกำลังมองหาบทเรียนชีวิตจากพระคัมภีร์ หรืออยากเข้าใจตัวเองและพระเจ้ามากขึ้น ติดตามบทความดีๆ แบบนี้ได้ที่ https://www.siamchristian.com
ถ้าหากสนใจอยากรู้เรื่องราวของการเป็นคริสเตียน สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่หัวข้อ เริ่มต้นการเป็นคริสเตียน หรือถ้าหากมีคำถามก็สามารถเมลมาสอบถามได้ที่ christiansiam@gmail.com
#SelfReflection #การสะท้อนตน #พระเจ้า #โยเซฟ #โยนาห์ #ข้อคิดคริสเตียน #บทความคริสเตียน #เติบโตในความเชื่อ
เว็บสยามคริสเตียน (Siam Christian) เป็นเว็บส่วนบุคคลที่ไม่ขึ้นกับองค์กรหรือหน่วยงานใด ๆ ซึ่งมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อให้ความรู้ ความเข้าใจแก่ผู้ที่สนใจเรื่องเกี่ยวกับพระเจ้า พระเยซู คริสเตียน หรือคริสตจักรต่าง ๆ ในประเทศไทย หากท่านมีคำถามหรือมีข้อเสนอแนะอะไรก็สามารถอีเมลมาพูดคุยกับเราได้ที่ christiansiam@gmail.com